Buttermilk Biscuits ขนมปังสำหรับเด็กแพ้อาหาร (ไม่มีแป้งสาลี ไข่ นมวัว ถั่วลิสง)

เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเลยว่า บิสกิต กับ สโคน มันต่างกันยังไงเพราะว่าไม่ชอบกินเลยไม่รู้สึกอยากรู้หรือเดือดร้อนอะไร แต่พอมีลูกแพ้อาหารสารพัดสิ่งบนโลกใบนี้อิแม่ก็ต้องสรรหาซักนิดนึงเนอะ พอได้ทำก็เลยขอหาเอาความรู้มาใส่ตัวนิดนึงค่ะ บิสกิต หรือ สโคนจัดเป็นขนมปังอย่างนึงนะคะฝรั่งเค้าเรียกว่า Quick Bread โดยปกติแล้วสองอย่างนี้จะคล้ายกันมาก ๆ นะคะ จะต่างกันตรงส่วนผสมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ สโคนจะใส่ไข่ค่ะ แต่บิสกิตจะไม่ใส่ไข่ ถ้าสูตรปกติคือเค้าว่ากันว่ามันจะกรอบนอกเนื้อข้างในจะละลายในปากกันเลยทีเดียว แต่ก็นะถึงของเราเนื้อในจะไม่ละลายในปากแบบเค้าว่า เอาเป็นว่านุ่มลิ้นก็พอละ ไปดูส่วนผสมกันนะคะ

ผ่าครึ่งทาแยมหอมอร่อยมาก ๆ

ส่วนผสม

• แป้ง self - raising flour ตั้มใช้ Yes You Can 250 กรัม
• ผงฟู 2 ช้อนชา
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• เนยน้ำมันรำข้าว (เย็น ๆ) 100 กรัม

หน้าตาเนยน้ำมันรำข้าวค่ะ

• โยเกิร์ต Joya รสธรรมชาติ 1 ถ้วย (ถ้าไม่มีให้ใช้นมที่ไม่แพ้ 100 ml + น้ำเลม่อน 1 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าแพ้ให้ใช้น้ำเชื่อมที่ไม่แพ้)

อบเสร็จแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้

วิธีทำ

• วอร์มเตาไว้ที่ 200 องศาซี ค่ะ การทำบิสกิตเราต้องใช้ความร้อนค่อนข้างสูงเพื่อจะทำให้ขนมขึ้นฟูโดยเร็วค่ะ
• ร่อนแป้ง และผงฟูในชามผสม เติมเกลือ และใส่เนยน้ำมันรำข้าวตามใช้มือนวดให้ส่วนผสมเข้ากันค่ะ (ไม่ใช้เครื่องผสมนะคะ) จะได้ลักษณะเหมือนทรายเปียกน้ำค่ะ
• เติมโยเกิร์ต หรือนมผสมเลม่อน และน้ำผึ้งลงไป (เหลือไว้นิดนึงสำหรับทาหน้าบิสกิตก่อนอบนะคะ) นวนผสมให้เข้ากันตรงนี้อย่าออกแรงเยอะนะคะ เดี๋ยวเนื้อบิสกิตจะแน่นค่ะ (เนื้อแป้งจะค่อนข้างเหลวอย่าโรยแป้งเยอะนะคะ การโรยแป้งเยอะ ๆ จะทำให้เนื้อบิสกิตแน่นค่ะ)
• โรลแป้งให้มีความหนาประมาณ 2 นิ้ว
• ใช้คุกกี้คัดเตอร์ความกว้างประมาณ 5 - 6 ซม. จุ่มแป้งบาง ๆ กดลงไปตรง ๆ อย่าหมุนนะคะ กดแล้วดึงขึ้นเลยค่ะ ทำแบบนี้จนแป้งหมดนะคะ สำหรับแป้งที่เหลือเราจำเป็นต้องรวมให้เข้ากันเพื่อกดใหม่เวลารวมแป้งพยายามให้เบามือที่สุดนะคะ ไม่งั้นเราจะได้บิสกิตแน่น ๆ (ตั้มก็ได้มาหลายชิ้นเลย อิอิ)
• ใช้แปรงจุ่มนมที่ผสมเลม่อนที่เหลือทาลงบนหน้าบิสกิตบาง ๆ 
• เอาเข้าอบที่ประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าสีบิสกิตจะเป็นสีเหลืองทองค่ะ
• เก็บใส่กล่องกันลมได้ 1 วัน เวลาจะทานก็เอาออกมาอบใหม่ แต่ต้้มว่าทานตอนทำเสร็จใหม่ ๆ จะอร่อยกว่ามากเลยค่ะ

หวังว่าจะไม่ยากเกินไปนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ แล้วพบกันใหม่เมนูหน้านะคะ

Folly Kitchen

by FollyGirl

ติดตามไอเดียการทำอาหารตั้มได้ที่ Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

http://www.youtube.com/channel/UCewnzo-MSDq7OTTaa2rvFmg 

Microwave Muffins (gluten, egg, dairy and nut free) ไมโครเวฟมัฟฟิ่น สูตรไม่มีแป้งสาลี ไข่ นมวัว และถั่วลิสง)

ทาด้า !!! ไม่น่าเชื่อว่าไมโครเวฟจะทำมัฟฟิ่นอร่อย ๆ เนื้อนุ่ม ๆ ได้ใช่มั้ยคะ ตั้มเองก็แปลกใจเหมือนกันค่ะ แต่มันก็เป็นไปแล้วมัฟฟิ่นตัวนี้เนื้อจะคล้ายขนมปังมาก ๆ แถมทำง่ายใช้เวลาไม่มากด้วยค่ะ สูตรนี้ตั้มดัดแปลงมาจากหนังสือญี่ปุ่นเล่มนึงค่ะไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยจ้า

ส่วนผสม

• แป้งโดนัท หรือ แป้งแพนเค้กกลูเตนฟรี 70 กรัม (ตั้มใช้แป้งโดนัทที่มีขายในห้างค่ะแป้งตัวนี้จะมีรสหวานมากตั้มเลยต้องผสมแป้งอื่นด้วยไม่งั้นจะหวานมากค่ะ ส่วนใครที่ใช้แป้งแพนเค้กที่ไม่ได้มีส่วนผสมของน้ำตาลสามารถใช้แป้งตัวเดียวโดยไม่ต้องผสมได้เลยนะคะ โดยใช้ที่ปริมาณ 140 กรัมเลยค่ะ)
• แป้งข้าวหอมมะลิ หรือ แป้งกลูเตนฟรีตัวอื่น 70 กรัม (ในกรณีที่ใช้แป้งโดนัทที่มีรสหวาน)
• ผงฟู 6 กรัม
• ผงไขเทียมใช้ 1 ฟอง (ผงไข่เทียม 1 ชช + น้ำเปล่า 2 ชต ตั้มเคยให้สูตรไว้แล้วสำหรับคนที่หาซื้อไม่ได้นะคะ การใช้ผงไข่เทียมจะช่วยให้เนื้อขนมที่เราทำยืดเกาะกันได้ดีค่ะ)
• Non Dairy Cream 120 ml
• น้ำเปล่า 40 ml (อาจจะเพิ่มได้ถ้าเนื้อแป้งที่ได้ข้นเกินไป)
• เกลือหยิบมือ
• ไส้กรอกกลูเตนฟรี 60 กรัม (ใครไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะ)
• ชีส แบบ Non Dairy 1 - 2 ช้อนโต๊ะ (ใครไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ)

* ถ้าใช้แป้งแพนเค้กแบบที่ไม่หวานให้เพิ่มน้ำตาลทราย 30 กรัม

วิธีทำ

• ผสมของแห้งลงให้ชามผสมคนให้เข้ากัน

• เติมส่วนผสมที่เป็นของเหลวลงไปคนให้เป็นเนื้อเนียนข้น

ผสมผงไข่เทียมเตรียมไว้ก่อนทุกครั้งก่อนทำจะได้สะดวกเวลาทำนะคะ

Non Dairy Cream + น้ำ

ให้ได้ฟิลลิ่งของเนื้อข้นประมาณนี้นะคะ

• ใส่ชีส 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยไส้กรอกคนให้เข้ากัน หลายคนชอบถามเรื่องไส้กรอกรอบนี้ตั้มใช้จากร้านแบ๊งค่านะคะ แต่หลายคนทานไม่ผ่านตรงนี้ต้องระวังนะคะ เด็กบ้านนี้กินผ่าน แล้วก็จะมีไส้กรอกที่เป็นกลูเตนฟรีที่มีขายใน Tops เป็นของนอกราคาค่อนข้างสูงค่ะลองไปเดินดูกันนะคะ

หน้าตาชีสที่ตั้มใช้ค่ะ

• ตักใส่พิมพ์ให้ใส่ในประมาณ 3/4 ของถ้วยพิมพ์ ใครใช้พิมพ์แบบตื้นให้ใส่ในปริมาณ 1/2 ของพิมพ์ก็พอนะคะ เพราะสูตรนี้จะค่อนข้างฟูค่ะ

ตั้มใช้พิมพ์ทรงสูงค่ะรอบนี้

• โรยหน้าด้านบนด้วยชีสที่เหลือ

• เอาเข้าที่ไฟสูงสุดประมาณ 1- 2 นาที ให้เข้าทีละนาทีนะคะ ตรงนี้อยู่ที่พิมพ์ และไฟของแต่ละบ้านด้วยนะคะ พิมพ์ลึก พิมพ์ตื้น ไฟแรง ไฟเบา เช็คกันดี ๆ นะคะ
• วิธีเช็คเนื้อมัฟฟิ่นก็เหมือนเดิมค่ะ คือเอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปตรงกลางแล้วดึงขึ้นถ้าเนื้อมัฟฟิ่นไม่ติดขึ้นมาเป็นอันสุกแล้วค่ะ

จิ้มลงไปแล้วดึงขึ้นถ้าไม่มีเนื้อแป้งติดเป็นอันใช้ได้

• กินร้อน ๆ อร่อยล้ำมากจ้า

ให้ดูเนื้อด้านใน หุหุ สวยงามที่สุด ^_^

รูปนี้ให้ดู Non Dairy Cream ที่ตั้มใช้ (ตัวนี้มีถั่วเหลืองนะคะ)

• ตั้มเก็บไว้ในตู้เย็น 2 วัน เอาออกมาอุ่นร้อนให้ยินดีกิน เนื้อยังนุ่มอยู่เลย มันฟินมากจ้า

หวังว่าเมนูนี้จะถูกใจแม่ ๆ ที่ไม่มีเตาอบ และมีเวลาไม่มากนะคะ

ปล. สูตรนี้เอาเข้าเตาอบก็ได้นะคะ อบที่ประมาณ 30 นาที ขอบอกว่าอร่อยมากค่ะ


ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ แล้วพบกันใหม่เมนูหน้านะคะ

Folly Kitchen

by FollyGirl

Cr. ภาพถ่าย คุณสามีสุดที่รัก ขอบคุณมากค่า :)

ติดตามไอเดียการทำอาหารตั้มได้ที่ Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

http://www.youtube.com/channel/UCewnzo-MSDq7OTTaa2rvFmg 

เค้กใบเตยนึ่ง กับ สังขยาใบเตย

อยากทำสาลี่ใบเตย แต่!!! ไม่มีไข่ ตั้มเลยได้เป็นเค้กนึ่งแทน วะฮ่า ๆๆๆ ไปดูส่วนผสม และวิธีทำกันเลยนะคะ รอบนี้ตั้มทำทิ้งไปหลายรอบ เลยไม่มีภาพและขั้นตอนต่าง ๆ นะคะไว้ทำใหม่แล้วจะถ่ายมาลงให้ใหม่นะคะ

ส่วนผสม

• แป้งกลูเตนฟรี 90 กรัม
• ผงฟู 6 กรัม
• น้ำตาลทรายป่น (ตั้มใช้ลิน แบบละเอียด) 65 กรัม
• ผงไข่เทียม 1 1/2 ช้อนชา + น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ (ใครไม่แพ้ไข่ใช้ไข่ไก่ 1 ฟอง) ใครไม่มีหาซื้อไม่ได้ตามลิงค์ตั้มไปนะคะ อ๊ะ ๆ ต้องใช้ตัวที่เป็นผงไข่เทียมนะคะ อันอื่นถ้าใช้จะกลายเป็นเค้กอย่างอื่นเลยค่ะ http://folly-kitchen.blogspot.com/2014/07/egg-replacer.html
• นมที่ไม่แพ้ (ตั้มใช้ Non Dairy Cream เหมือนเดิม) 40 กรัม
• น้ำใบเตยคั้นเข้ม ๆ 20 กรัม
• เกลือหนึ่งหยิบมือ

วิธีทำ

• ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือเตรียมไว้
• ผสมผงไข่เทียม กับน้ำตีให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทรายตีให้น้ำตาลละลายรวมกับผงไข่เทียมให้เป็นเนื้อเนียนดีค่ะ ไม่ต้องตีนานนะคะของเราเป็นของเทียมตีนานเหนียวมากค่ะ แต่สำหรับคนใช้ไข่ได้ตีให้ไข่และน้ำตาลขึ้นฟูเป็นเนื้อครีมไปเลยค่ะ
• จากนั้นค่อย ๆ เทแป้งลงในของเหลว เทไปคนไป (แบ่งเป็น 3 รอบได้ค่ะ) ตีให้เข้ากันค่ะ แล้วค่อย ๆ ใส่นมกับน้ำใบเตยค่ะ แบ่งใส่ให้เท่ากับรอบการใส่แป้งค่ะ ตีให้เข้ากันเป็นเนื้อเนียนไม่ต้องตีแรงมากนะคะเดี๋ยวไม่ฟู
• ตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อย่าใส่จนเต็มพิมพ์นะคะ เอาแค่ 3/4 ของพิมพ์ก็พอค่ะ
• นึ่งในน้ำเดือด แล้วลดไฟลงเหลือไปปานกลางพอค่ะ นึ่งประมาณ 10 - 20 นาที ตรงนี้ต้องแล้วแต่ขนาดของพิมพ์ด้วยนะคะ ลองเช็คด้วยกานใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงในเนื้อเค้กถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมาเป็นอันว่าสุกแล้วค่ะ
• เอาออกจากหม้อนึ่งพักให้เย็นค่ะ ไปทำสังขยากันค่ะ

เวลาทำเค้กจริง ๆ แล้วตั้มไม่แนะนำให้ใช้พิมพ์แก้วนะคะ ตั้มรู้สึกว่าพิมพ์แก้วเก็บความร้อนไม่ค่อยดีเท่าไหร่บางครั้งอาจจะทำให้เนื้อเค้กเหลวดูเหมือนไม่สุกค่ะ

ส่วนผสมสังขยาใบเตย (เต็มสูตร)

• นมที่ไม่แพ้ หรือ กะทิ 1 ถ้วย
• น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย (ถ้าชอบหวานเพิ่มได้ค่ะ)
• แป้งกรูเตนฟรี 1/3 ถ้วย

วิธีทำ

• ผสมส่วนผสมทุกอย่างลงในซอสแพนคนให้แป้งละลาย ยกขึ้นตั้งไฟปานกลางคนตลอดเวลานะคะ คนไปเรื่อย ๆ จนแป้งเริ่มข้น (เวลาแป้งจะเริ่มข้นมันจะเร็วมากค่ะ) จนเห็นเป็นรอยตะกร้อยกลงจากเตาคนไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพี่อคลายความร้อนนะคะ ไม่งั้นแป้งจะข้นและเกาะตัวเป็นก้อนถ้าใครอยากจะเทลงบนเค้กอย่าให้แป้งข้นเกินไปนะคะ พักให้อุ่นตักราดลงบนเค้ก หรือจะเอาไว้จิ้มเหมือนขนมปังสัขยาก็ได้ค่ะ ที่เหลือเก็บใส่กล่องเข้าตู้เย็นไว้กินอีกได้นะคะ

เสร็จแล้วจ้า ขอให้อร่อยกับเค้กสูตรนี้นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ พบกันใหม่เมนูหน้านะคะ

Folly Kitchen

by FollyGirl

Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

http://www.youtube.com/channel/UCewnzo-MSDq7OTTaa2rvFmg 

Homemade Herbal Cough Drops ยาอมแก้ไอน้ำผึ้งมะนาว กับขิง

อะแฮ่ม ๆๆ ใครเจ็บคอบ้างคะ วันนี้เรามาทำลูกอมเพิ่มความชุมคอกันเองดีกว่านะคะ ทำง่ายนะลองเอาไปทำกันดูนะคะ (สูตรนี้สามีเคยหามาให้ดูค่ะ เป็นเว็บของฝรั่งแต่ตั้มจำมาแต่วิธีทำนะคะลืมเก็บลิงค์ไว้ค่ะ) ไปดูส่วนผสม และขั้นตอนการทำกันนะคะ

ส่วนผสม

• น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
• ขิงป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลไอซิ่งไว้สำหรับคลุก

วิธีทำ

• เทส่วนผสมทุกอย่างลงในซอสแพน คนให้น้ำตาลพอละลาย ยกขึ้นตั้งไฟปานกลางหมั่นคน พอเริ่มเดือดตรงนี้ต้องคอยระวังล้นนะคะ ต้องหมั่นคนไปเรื่อย ๆ ให้น้ำตาลเดือดประมาณ 3 ครั้ง ลดไฟลงให้เหลือไฟอ่อนคนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลมีลักษณะข้นและเปลี่ยนสีเป็นสีคาราเมล (น้ำตาลเข้ม) 
• เตรียมถาดรองกระดาษรองอบไว้กันติด ใช้ช้อนค่อย ๆ ตักหยอดให้เป็นหยด ๆ ตามต้องการ หรือจะใส่พิมพ์แบบซิลิโคนก็ได้ค่ะ
• พักไว้จนน้ำตาลแห้งสนิทค่ะ เน้นว่าต้องแห้งสนิทนะคะ หลังจากนั้นโรยน้ำตาลไอซิ่งแล้วแกะออกจากพิมพ์แล้วคลุกให้ลูกอมไม่ติดกัน
• เก็บใส่กล่องให้มิดชิด เก็บไว้ทาน

สามารถละลายน้ำร้อนไว้สำหรับจิบได้ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ไว้พบกันใหม่เมนูหน้า
Folly Kitchen
by FollyGirl
รักกันชอบกัน ติดตามกันได้ที่ Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen
Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 
ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^http://www.youtube.com/channel/UCewnzo-MSDq7OTTaa2rvFmg