วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

ถั่วกวน สูตรไม่ใช้กะทิ Mungbean Pudding


สวัสดีค่า ขนมไทยชิ้นที่ 7 เมนูนี้เกิดขึ้นได้เพราะความอยากกินของตั้มเอง 5555 "ถั่วกวน" เป็นขนมไทย และขนมหวานในไม่กี่อย่างที่ตั้มชอบกิน และจะซื้อกินเมื่อมีโอกาสเสมอ ๆ 

วันนี้อยากกิน แต่ต้องคิดเผื่อยินดี จะซื้อกินก็กลัวลูกเห็นแม่กินแล้วอยากกินด้วย แต่ก็กลัวปนเปื้อนเพราะไม่รู้ว่าคนทำ ทำกับขนมเมนูไหนบ้าง หาวิธีทำเองซะเลย 

ไม่อยาก (อีกแล้ว) อย่างที่คิด แค่ต้องใช้เวลาในการแช่ถั่วเขียวเท่านั้นค่ะ ไปดูส่วนผสม กับ วิธีกันเลยค่ะ

ส่วนผสม

  • ถั่วเขียวซีกเราะเปลือก 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (เพิ่มลดตามใจชอบค่ะ)
  • มะพร้าวขูด 1/2 ถ้วย (ใครไม่แพ้ไม่ต้องใส่ค่ะ)
  • กะทธัญพืช (แบบไม่ต้องผสมอะไร) 1 ถ้วย (ใครไม่แพ้กะทิใช้หัวกะทิได้เลยค่ะ)
  • เกลือหยิบมือ

วิธีทำ

  • ล้าง และแช่ถั่วเขียวซีกเราะเปลือกไว้ 1 คืน จากนั้นล้างน้ำหลาย ๆ รอบ จนกระทั่งน้ำที่ได้สะอาดใส
  • เอาถั่วเขียวไปนึ่ง จนสุก (รองผ้าขาวบางก่อนนะคะ) พักไว้ให้เย็น
  • พอถั่วเขียวเย็นแล้ว เอาส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในโถปั่นอาหารค่ะ จากนั้นก็ปั่น ๆๆๆ ให้ทุกอย่างละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันค่ะ
  • ตั้งกระทะจะเป็นทองเหลือง หรือ กระทะเทฟล่อน ก็ได้ค่ะ เอาที่ไม่ให้ติดกระทะค่ะ ช่วงแรกสามารถตั้งไฟแรงได้ค่ะ คนส่วนผสมทั้งหมดไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแห้งจับตัวกันเป็นก้อนพอจะปั้นได้ ช่วงที่ถั่วกำลังจะสุก หรี่ไฟให้เป็นไฟอ่อนนะคะ ระวังถั่วไหม้ ตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาทีค่ะ พักถั่วไว้ให้เย็นให้พอเอามากดพิมพ์ได้
  • กดถั่วใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ หรือ จะปั้นเป็นรูปต่าง ๆ ก็ได้นะคะ (น่าเอามาทำลูกชุปเนอะ)
  • หรือจะกดถั่วกวนใส่ถาดสี่เหลี่ยม แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ สี่เหลี่ยม ก็เก๋ไปอีกแบบนะคะ ตั้มไม่มีพิมพ์เลยใช้พิมพ์ซิลิโคนแทนค่ะ ลายถั่วเลยไม่ค่อยคมชัดเท่าไหร่ค่ะ
  • จากนั้นเอาถั่วกวนใส่ภาพชนะที่มีฝาปิดสนิท อบควันเทียนไว้ 1 คืน ก็ได้ถั่วกวนหอมกลิ่นควันเทียน แล้วค่ะ ใครจะไม่อบควันเทียนก็ได้นะคะ
  • เก็บในภาชนะที่มีฝาปิด ถ้ากินหลายวันก็แนะนำให้เข้าตู้เย็นไว้นะคะ





เสร็จแล้วค่า ขนมไทยง่าย ๆ ทำกินเองได้ที่บ้าน


ขอให้อร่อยกับขนมไทย และขอบคุณที่ติดตาม
พบกันใหม่เมนูหน้านะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl

Cr. ภาพถ่าย คุณสามีสุดที่รัก ขอบคุณมากค่า :)


Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

ช็อกโกแลต ฟัดจ์ (สูตรเจ ไม่มีแป้ง ไม่มีนมวัว) Vegan Chocolate Fudge

ไม่น่าเชื่อว่าเมนูนี้จะง่ายแสนง่าย ใช้เวลาในการทำประมาณ 5 นาที (อีกแล้ว) อะไรยาก ๆ ตั้มไม่ทำ 55555 ไปดูส่วนผสม และ วิธีทำกันเลยค่ะ

Ingredients
  • 30 กรัม เนยน้ำมันรำข้าวละลาย หรือ น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น
  • 1/2 กระป๋อง นมข้นหวาน เจ ตรา มะลิ หาซื้อได้ตามซุปเปอร์ ยกเว้น โลตัส กับ แมคโครค่ะ (ตรงนี้เพิ่มลดความหวานเองได้นะคะ) หรือ จะใช้สูตรนมข้นหวานทำเองก็ได้นะคะ
  • Hershey dark chocolate 1 แพ็ค
  • เกลือ หนึ่งหยิบมือ ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ



Directions
  • ละลายเนย กับ นมข้นหวานในไมโครเวฟ ให้เนยละลาย คนให้เค้ากัน
  • ใส่ช็อกโกแลตลงไป คนให้ละลาย หากไม่ละลายให้เอาเข้าไมโครเวฟอีก 1 นาที คนให้ทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเนียน ตรงนี้ถ้าใครไม่แพ้ถั่ว อยากเพิ่ม ถั่ว เมล็ดฟักทอง เพิ่มตรงนี้เลยนะคะ แล้วคนให้เข้ากันค่ะ
  • ใส่เกลืองนิดหน่อย ตั้มชอบใช้เกลือกับพวกเมนูช็อกโกแลตค่ะ มันจะช่วยตัดรสหวานได้ดี ทำให้ขนมอร่อยขึ้นค่ะ
  • หาภาชนะแบน ๆ สี่เหลื่อม รองด้วยกระดาษฟอล์ย เทช็อกโกแลต แล้วใช้ไม้พายเกลี่ยนหน้าให้เรียบ
  • เอาเข้าตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง หรือ ทิ้งไว้ 1 คืน
  • แกะออกขากพิมพ์ ใช้มีดหั่นให้เป็นขนาดที่ต้องการ แค่นี้ก็ได้ได้ ช็อค ฟัดจ์ อร่อยแล้วค่ะ



Enjoy !!

ขอให้อร่อยกันนะคะ และขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl


Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

Arrowroot Baby Biscuits (Gluten, Dairy, Egg, Soy and Nut Free) สูตรเด็กแพ้อาหาร


สวัสดีค่า บิสกิตกรอบ ๆ ตัวนี้ เก๋ไก๋สไลเดอร์มากค่ะ เพราะทำมาจากแป้งท้าวยายม่อม ตั้มได้ไอเดียมาจากคุกกี้ Arrowroot ของยินดีค่ะ เป็นคุกกี้เด็กแพ้ที่ซื้อให้ยินดีแล้วตั้มรู้สึกว่ามันรสชาติดีที่สุดเท่าที่เคยชิมมา เลยอยากลองทำให้ยินดีค่ะ

วันนี้ตั้มพอมีเวลาเลยลองแป้งได้หลายตัว (จริง ๆ แล้วทิ้งไปซะเยอะค่ะ) แถมยังทำได้ทั้งเตาเอบ และ ไมโครเวฟด้วย หุหุ ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ


ส่วนผสม

  • 75 g แป้งข้าวหอมมะลิ, แป้งข้าวเจ้า หรือ แป้งกลูเตนฟรี (วันนี้ลองใช้แป้งข้าวหอมมะลิ แล้วก็ Yes You Can รสชาติไม่ต่างกันค่ะ)
  • 30 g แป้งท้าวยายม่อม หรือ แป้งมันสำปะหลัง (วันนี้ลองทั้งสองตัวค่ะ โอเคทั้งคู่)
  • 32 g น้ำตาลไอซิ่ง หรือ น้ำตาลทราย (ถ้าใครใช้แป้งข้าวฯ แนะนำให้ใช้ไอซิ่งค่ะ)
  • 28 g น้ำมันรำข้าว หรือ น้ำมันที่ไม่แพ้
  • 15 g Non Dairy Cream (ใครแพ้ถั่วเหลืองให้ใช้นมที่ไม่แพ้ค่ะ)
  • เกลือหยิบมือ
  • น้ำผึ้ง ถ้าไม่แพ้ 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  • Vanilla Extract 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถ้าใส่น้ำผึ้งแล้วไม่ต้องใส่กลิ่นค่ะ)
วิธีทำ
  • วอร์มเตาอบไว้ที่ 180 องศาซี
  • สำหรับคนที่ใช้แป้งท้าวยายม่อม ตรงนี้ตั้มแนะนำให้คั่วแป้งให้สุกก่อนในกระทะนะคะ สังเกตุว่าแป้งไม่ติดกระทำเป็นอันใช้ได้ค่ะ หรือ ใส่ไมโครเวฟประมาณ 90 วิ พักไว้ให้แป้งเย็นก่อนใช้นะคะ 
  • สำหรับแป้งมันไม่ต้องคั่วค่ะใช้ได้เลย
  • ผสมของแห้งทั้งหมดลงในชามผสมคนให้เข้ากัน
  • เติมของเหลว ครีม หรือ นม และ น้ำมัน กลิ่น หรือ น้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน
  • นวดแป้งให้เป็นเนื้อเนียนดี  (โดยปกติของแป้งข้าวทั้งหลายมันจะแห้ง และดูดน้ำมากกว่าแป้งกลูเตนฟรีที่มีขายทั่วไปนะคะ) ถ้ารู้สึกว่าแป้งแห้งเกินไป ให้ค่อย ๆ เพิ่มครีม หรือ นมทีละนิดอย่าใจร้อนนะคะ หรือ ถ้ารู้สึกว่าแฉะไปก็ค่อย ๆ เพิ่มแป้งนะคะ นวนจนส่วนผสมเนียนไม่ติดมือเป็นอันใช้ได้ค่ะ
  • ใครพอมีเวลา ให้พักแป้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที แต่วันนี้ตั้มทำลองแป้งหลายตัวเลยไม่ได้พักในตู้เย็นนะคะ 
  • รีดแป้งให้มีความบางประมาณ ครึ่งเซน นะคะ แล้วใช้พิมพ์ที่เตรียมไว้ กดแล้ววางลงบนถาดอบ ที่รองด้วยกระดาษรองอบ แล้วใช้ซ่อมจิ้มให้เป็นรู โรยด้วยเกลือนิดนึงเพิ่มรสชาติ
  • อบจนสุก ประมาณ 10 นาที หรือ กลายเป็นสีน้ำตาลทอง
  • เอาออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น รับรองความกรอบค่ะ
  • สำหรับคนที่ใช้ไมโครเวฟ ต้องระวังไหม้นิดนึงนะคะ แนะนำว่าถ้าจะใช้ไมโครเวฟไม่ควรรีดแผ่นแป้งบางไปค่ะ ให้ความหนาซักนิดนึงกันไหม้นะคะ ใช้ภาชนะที่แบน ๆ มีเนื้อที่กว้าง ๆ วางบิสกิตไว้รอบ ๆ อย่าวางไว้ตรงกลางเด็ดขาดค่ะ เพราะจะไหม้ก่อน อบที่ 1 นาทีก่อนนะคะ บ้านตั้มปรับความร้อนไม่ได้ ของตั้มรอบนี้ทำบางเกินไปค่ะ อบออกมามีบางชิ้นไหม้ (ตั้มอบแค่ 1 นาทีเองค่ะ) แต่รสชาติและความกรอบ ใช้ได้ค่ะ แต่จะสู้เตาอบไม่ได้นะคะ


แผ่นแป้ง แล้วก็กดด้วยพิมพ์กดคุกกี้ที่ชอบค่ะ
 ทาด้า!! เสร็จแล้วค่า บิสกิต กรอบ ๆ สำหรับเด็ก ๆ และแม่ ๆ 

ใครทำแล้วส่งภาพมาให้ชมบ้างนะคะ

ขอให้อร่อยกันนะคะ พบกันใหม่เมนูหน้าค่า
Folly Kitchen

Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen ไว้ส่งภาพขนมน่ารักมาแบ่งกันชม หรือ ติดตามภาพอาหาร หรือ ขนมที่ตั้มทำค่ะ

Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

แครอท แฟล็ก แครกเกอร์ (Top8 free) Carrot Flax Cracker

หาวิธีทำแครกเกอร์ให้ยินดีค่ะ หาไปหามาไปเจอของฝรั่งคนนึงค่ะ เค้ากินอาหาร Raw Food ตั้มเลยขอเอาสูตรเค้ามาดัดแปลงนะคะ ทำง่ายมาก ๆ รสชาติก็ธรรมชาติดีค่ะ แถมมีประโยชน์สุด ๆ ไปดูกันเลยนะคะ

ส่วนผสม
  • แครอท 7-8 หัว
  • งาขาว 3/4 ถ้วย
  • เมล็ดลินิน หรือ แฟล็กซีด 1 ถ้วย
  • เกลือ หยิบมือ
  • น้ำมันที่ไม่แพ้ 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ
  • ปั่นแครอท และ Flaxseed ให้ละเอียด (ตรงนี้อยากให้ดูว่าเมล็ดแฟล็กละเอียดดีแล้วนคะ หรือใครมีแบบที่บดมาแล้วจะดีมากค่ะ มีคนแนะนำว่าเมล็ดแฟล็กย่อยยากในเด็กเล็ก ๆ ค่ะ) แล้วค่อยตามด้วย งาขาว เติมเกลือ และ นั้ำมัน ปั่นต่อให้เข้ากัน
  • เทส่วนผสมทั้งหมดที่ปั่น ลงบนถาดรองอบ ปูด้วยกระดาษรองอบทาน้ำมันนิดนึงค่ะ กันติด ตั้มทำครั้งแรกไม่ได้ทาค่ะ ติดกระดาษกันเลย หรือ ตรงนี้ใครมีแผ่นซิลิโคนรองอบก็ช่วยได้ค่ะ (ส่วนผสมใครแห้งเกินไป ใส่น้ำเพิ่มได้นะคะ)
  • เกลี่ยส่วนผสมทั้งหมดให้ถั่วถาดค่ะ ตรงนี้ใครจะโรยออริกาโน่เพิ่มก็ได้นะคะ พยาบามอย่าให้บางนะคะ เดี๋ยวไหม้ 
  • ใช้มีดทำรอบสำหรับเวลาอบเสร็จจะได้หักง่าย ๆ (ดูภาพประกอบนะคะ)
  • อบที่อุณหภูมิ 120 องศาซี ประมาณ 1 - 1 1/2 ชั่วโมง คอยดูนะคะ ระวังไหม้ (เพราะตั้มไหม้มาแล้ว อิอิ) อบเสร็จพักไว้ให้เย็น แล้วเก็บใส่กล่องกันชื้นไว้ทานนะคะ

Enjoy ค่า :) 

ใครทำแล้วส่งภาพมาให้ชมบ้างนะคะ

ขอให้อร่อยกันนะคะ และขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl


Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen
Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

บราวนี่ อินทผลัม (สูตรไม่มีแป้งสาลี ไข่ นมวัว ถั่วลิสง) Glutenfree and Vegan



ค้นตู้เย็นเจอ กล่องอินทผลัม อยู่ข้างในลึกสุด ลืมไปเลยว่าเคยซื้อมา รีบดูวันหมดอายุ หุหุ ยังใช้ได้ จัดไปเลยจ้า บราวนี่ น้ำตาลน้อย เพื่อสุขภาพนะค้า

ส่วนผสม (ทำได้ 3 พิมพ์ขนาดเล็กสุด) ใครอยากได้สูตรเต็ม ทิ้งข้อความไว้นะคะ
  • อินทผลัม 10 ลูก
  • นมที่ไม่แพ้ ตั้มใช้ Non Dairy Cream เหมือนเดิม ก็มันติดใจอ่ะ 1/2 ถึง 1 ถ้วย
Non Dairy ที่ตั้มใช้นะคะ แปะภาพอีกครั้ง แพ้ถั่วเหลืองใช้ไม่ได้นะคะ
  • น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
  • แป้งกลูเตนฟรี รอบนี้ ตั้มใช้แป้งข้าวหอมมะลินะคะ 1/2 ถ้วย
  • โกโก้ 3 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  • ผงฟูง 1/2 ช้อนชา
  • เกลือหยิบมือ

วิธีทำ

  • วอร์มเตาอบไว้ที่ 180 องศาซี ทำน้ำมันที่พิมพ์รอไว้
  • แบ่งอินทผลัมออกมา 3 - 4 ลูก หั่นหยาบ ๆ พักไว้ ที่เหลือเอาไปปั่นกับนมให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกันค่ะ
  • ร่อนแป้ง น้ำตาลทราบแดง เบกกิ้งโซดา ผงฟู โกโก้ และ เกลือ ในชามผสม คนให้เข้ากัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมเหลวลงในแป้ง อย่าเพิ่งใจร้อนเทหมดนะคะ เพราะตรงนี้ต้องแล้วแต่แป้งที่แต่ละคนใช้ด้วยค่ะ อย่างตั้มใช้แป้งข้าวหอมมะลิเนื้อแป้งจะดูดน้ำมากกว่าแป้งกลูเตนฟรีสำเร็จรูปที่ขาย ๆ กันค่ะ ค่อย ๆ ผสมไป เหลือนิดหน่อยไม่เป็นไรค่ะ ผสมกันให้เนื้อแป้งประมาณนมข้นหวานค่ะ (นึกความข้นที่จะอธิบายไม่ออก)
  • จากนั้นเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยด้วยอินทผลัมที่หั่นไว้ อบจนเค้กสุก ใช้เวลาประมาณ 35 - 45 นาที แล้วแต่เตาแตะละบ้านนะคะ หรือถ้าไม่มั่นใจลองเอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงตรงกลางเค้ก ถ้าเนื้อเค้กไม่ติดขึ้นมาเป็นอันสุกแล้วค่ะ
  • พักให้เย็น เอาออกจากพิมพ์ จะกินเลย หรือ แช่ตู้เย็นไว้ก็อร่อยค่ะ



ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl


Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen

Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

สูตรทนแทนไข่ สำหรับการทำเบเกอรี่ สำหรับคนแพ้ไข่ นะคะ

สูตรทดแทนไข่

ไข่ 1 ฟอง


หรือ มันฝรั่งบด 1/4. ถ้วยตวง

หรือ เต้าหู้บดละเอียด 1/4 ถ้วยตวง ทำพวกเค้กหนัก ๆ หรือ บราวนี่ได้ดีเลย (หากทำขนมเบา ๆ ก็ใช้ 1/2 ถ้วย แทนไข่ 3 ฟอง)

หรือ applesauce 1/3 ถ้วยตวง

หรือ ลองใช้เมล็ดลินิน (flax seed)
เมล็ดลินิน 1 ชต. บดให้ละเอียดผสมกับน้ำ 3 ชต. ทิ้งไว้สักพักจะเห็นว่ามันมีลักษณะเป็นเมือก ๆ ใช้แทนไข่ 1 ฟองค่ะ

หรือ ใช้กล้วยหอม หรือกล้วยน้ำว้าบดละเอียดแทนไข่ได้ กล้วยหอม 1/2 ลูก หรือกล้วยน้ำว้า 1 ลูก แทนไข่ไก่ 1 ฟอง ใช้ทำเค้กได้แต่จะมีกลิ่นกล้วยนะคะ

หรือ โยเกิร์ตข้น ๆ 1/4 ถ้วยก็ใช้แทนไข่ไก่ 1 ฟองในสูตรเค้ก (อันนี้สำหรับคนที่ไม่แพ้นมวัวนะคะ)


หรือ บางคนก็ใช้เจ้า Ener-G แทนดูได้ที่ http://www.veganessentials.com/catalog/ener-g-egg-replacer.htm

ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ อันนี้จดมาจากหลายที่ ขอขอบคุณเจ้าของสูตรไว้ตรงนี้นะคะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl


Fanpage : https://www.facebook.com/follykitchen

Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

Folly Kitchen มี Fanpage แล้วน้า :)


หลาย ๆ คนบอกว่าให้ตั้ม Fanpage ซักที แต่ด้วยความที่ขี้เกียจดูแลเพราะตัวเองมีหลาย page ที่เป็น Admin อยู่แล้ว แล้วก็กลัวไม่มีคนกด ไลค์ ด้วย 55555 ไม่ใช่ จริง ๆ กลัวจะไม่ค่อยได้ Update เท่าไหร่ แต่เอาว่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ มีซักหน่อย เผื่อให้แฟน ๆ (อิอิ) ส่งรูปเมนูอาหารมาแชร์ มาเก็บกันไว้นะคะ ใครรักกัน ติดตามกัน ตามไปกด ไลค์ ให้เค้าหน่อยน้า

https://www.facebook.com/follykitchen

ขอบคุณเจ้าของสูตรทุกสูตรที่ให้แรงบันดาลใจตั้มนะคะ ดูจำมาจากหลายที่ เอามาดัดแปลงให้ลูกลิงได้มีของกินหลากหลายค่ะ :)

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl


Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

เค้กกล้วยหอมนึ่ง สูตรสำหรับเด็กแพ้อาหาร หรือ คนกินเจ ไม่มีแป้งสาลี นมวัว ไข่ ถั่วลิสง


วันนี้เป็นครั้งแรกกับการทำเค้กแบบนึ่ง จริง ๆ ตั้มว่าก็คล้าย ๆ ขนมถ้วยฟูนะ แค่มีกลิ่นของกล้วยอ่อน ๆ ค่ะ เมนูนี้ภาพน้อยนะคะ เพราะตอนเช้าก่อนยินดีไปเรียน รีบทำ รีบไปค่ะ

ส่วนผสม
  • แป้งกลูเตนฟรี 1 1/2 ถ้วย ตั้มใช้ Bob's Red Mill แต่จะใช้แป้งตัวไหนก็ได้นะคะ 
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • นมที่ไม่แพ้ 1/2 ถ้วย ตั้มใช้ Non Dairy ค่ะ (แอบติดใจมากอ่ะ ทำขนมแล้วนุ่มมาก ๆ )
  • น้ำมันที่ไม่แพ้ 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย หรือ น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย ตั้มใช้น้ำตาลทรายแดงค่ะ หอมกว่าอร่อยกว่า สีสวยกว่าค่ะ (ส่วนของน้ำตาลลองชิมดูนะคะ เพิ่มลดตามชอบค่ะ)
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • กล้วยสุกบดละเอียด 2 ลูกใหญ่ 


วิธีทำ
  • ร่อนของแห้งทั้งหมดเข้าด้วยกัน (ถ้าใช้น้ำตาลทรายไม่ต้องร่อน)
  • ผสมนม กับ น้ำตาล (ในกรณีที่เป็นน้ำตาลทราย) ละลายให้เข้ากัน ถ้าเป็นน้ำตาลทรายแดงก็เทนมลงไปในส่วนผสมของแห้งได้เลยค่ะ แล้วตามด้วยน้ำมันพืช ตีส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยกล้วยค่ะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเนียน
  • ตักใส่ถ้วยพิมพ์ ตรงนี้พยายามให้เนื้อแป้งเรียบเนียนนะคะ เวลานึ่งเสร็จรเค้าจะได้หน้าแตกสวยค่ะ ถ้าเนื้อแป้งเวลาตักแล้วมีรอยต่อ เนื้อเค้กเวลานึ่งจะแตกตามรอยต่อของแป้ง เดี๋ยวไม่สวย ^__^
  • เวลานึ่งสำคัญมากคือ ต้องให้น้ำในซึ้งเดือดพล่านก่อนนะคะ แล้วค่อยเอาขนมลงไปนึ่งค่ะ นึ่งไฟแรงประมาณ 20 นาทีนะคะ พอสุกแล้วรีบเอาออกจากซึ้งเลยแล้วก็พักให้เย็นก่อนค่อยแคะออกจากพิมพ์นะคะ แต่ตั้มใจร้อนค่ะ ทำหลายสิ่ง ตั้มเอาน้ำเย็นใส่กะละมังไว้ พอสุกปุ๊บเอาถ้วยพิมพ์แช่น้ำเย็นเลยค่ะ ทุ่นเวลา 5555
  • เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ เค้กกล้วยหอมแบบนึ่ง ลองเอาไปปรับ ดัดแปลง ให้เป็นไอเดียของตัวเองดูนะคะ รอบนี้ตั้มทำเป็น เค้กป๊อป ชิ้นเล็ก ๆ กินง่าย ๆ สำหรับเด็ก ๆ ค่า
ขอบคุณเจ้าของสูตรนะคะ มาจากหลายที่ เอามาดัดแปลง :)

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl



Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^


วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

สูตรกุยช่ายถาด

เมนูนี้ติดเอาไว้นานมากเลย วันนี้มาลงให้แล้วนะคะ (ขายของเก่ากินก่อน อิอิ) ทำง่าย แถมยังอร่อยด้วยค่ะ 

ส่วนผสมค่ะ
  • ใบกุยช่ายซอย 300 กรัม วันที่ทำ ตั้มมีทั้งเขียว ทั้งขาว ใช้มัน 2 อย่างเลยค่ะ อร่อยดี
  • กะเทียม สับละเอียด 5 กลีบ
  • แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม
  • แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ
  • เบคกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา ใส่เพื่อไม่ให้ใบกุยช่ายจมลงไปในแป้งค่ะ
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • น้ำ 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด
  • ซีอิ๊ว น้ำตาล ผสมน้ำส้มสำหรับเอาไว้จิ้มค่ะ ใครแพ้ถั่วเหลืองก็ใช้เกลือแทนค่ะ
วิธีทำ
  1. ผัดใบกุยช่าย เบกกิ้งโซดา และกระเทียบในกระทะ ให้ใบกุยช่ายนิ่ม แล้วพักไว้
  2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน เกลือ และใบกุยช่ายที่ผัดไว้ คนให้เข้ากัน เติมน้ำแล้วนวดผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถาดที่เตรียมไว้ ตั้มใช้พิมพ์เค้ก กับ จากเซรามิกค่ะ

    อันนี้ใช้พิมพ์ขนมค่ะ

    ใช้จานเซรามิก
  3. นึ่งแป้งกุยช่ายจนสุก วิธีดูคือ สีจะใสขึ้นค่ะ หรือประมาณ 20 นาที พอสุกพักไว้ซักครู่ นำออกจากถาด ตัดเป็นชิ้น ๆ จะกินเลยตอนนี้ก็อร่อยค่ะ จิ้มกับซอสที่เราเตรียมไว้
    แบบนึ่ง
  4. หรือจะ เอาไปทอดกินแบบกรอบ ๆ ก็ได้ค่ะ


    แบบทอด
เสร็จแล้ว เป็นไงล่ะ ทำง่ายมากใช่มั้ยคะ เมนูตั้มง่ายไว้ก่อน ตาม Concept อิอิ

ขอให้อร่อยกันนะคะ พบกันใหม่เมนูหน้านะคะ จุ๊บ ๆ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Folly Kitchen
by FollyGirl
Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

โดนัทฟักทอง แบบไม่ใช้เตาอบ (สูตรสำหรับเด็กแพ้อาหาร ไม่มีแป้งสาลี นมวัว ไข่ ถั่วลิสง ถั่วเปลือกแข็ง)

สวัสดีค่า มาแล้ว ๆ สูตรโดนัทที่ค้างไว้ว่าจะเขียนให้ ยุ่งมากอีกตามเคยค่ะ สูตรนี้ตั้มปรับมาจากสูตรที่คุณเป้า (ชมรมเด็กแพ้ฯ) เคยแชร์ไว้นะคะ ทำง่ายมากค่ะ ไปดูส่วนผสมกันเลยค่า

ส่วนผสม
  • แป้งกลูเตนฟรี 1 1/2 ถ้วย ตั้มใช้แป้ง Yes You Can กับ Bob's Red Mill ผสมกันนะคะ (แต่ตรงนี้ใครมีแป้งกลูเตนฟรีสูตรไหนก็ใช้ได้เลยค่ะ)
  • ฟักทองนึ่งบดละเอียด 1 ถ้วย
  • ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
  • เกลือ 1 หยิบมือ
  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย (เพิ่มลดได้นะคะ)
  • นมที่ไม่แพ้ หรือ น้ำเปล่า 3/4 ถ้วย สำหรับส่วนตัวของตั้ม ตั้มชอบใช้ Non Dairy Cream (แบบจืดตัวที่ตั้มใช้บ่อย ๆ นะคะ) แทนนะคะ ตั้มรู้สึกว่า มันทำให้ขนมนุ่มกว่า นม หรือ น้ำ ค่ะ
  • น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย

วิธีทำ

  • ผสมของแห้งลงในชามผสม ตามด้วยของเหลว คนให้เข้ากันก่อน
  • ใส่เนื้อฟักทองลงไป ตีให้เข้ากัน ให้ได้ลักษณะแป้งตามภาพนะคะ อย่าให้เหลวไปนะคะ

  • ตรงนี้ใครอยากทำเป็น Rainbow Donuts (ใครยังไม่เคยดูตามไปดูได้ที่นี่นะคะ ตั้มเคยทำไว้ให้ดูค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=MPOQTpLuCKw)  ให้แบ่งใส่ชาม 6 ใบ แล้วใส่สีได้เลยค่ะ ใครไม่อยากใส่สีก็หยอดลงบนเครื่องทำโดนัท ได้เลยค่ะ สูตรนี้จริง ๆ สามารถเข้าไมโครเวฟได้นะคะ แต่อาจจะได้เนื้อโดนัทที่ไม่นุ่มเท่าใช้เครื่องทำโดนัทนะคะ 

 
  • แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ ดูเนื้อนะคะ นุ่มฝุด ๆ ค่า ยินดีปลื้มมาก เพราะแม่ไม่ได้ทำนานแล้วค่ะ เมนูนี้ ทำง่าย ๆ ไม่เสียเวลา มีติดบ้านไว้ให้เด็ก ๆ ได้อร่อยกันนะคะ ^___^


ขอบคุณที่ติดตามตั้มมาตลอด ไว้พบกันใหม่นะคะ

Folly Kitchen
 by FollyGirl 
อีกครั้งนะคะ ใครแชร์ ใครทำตาม ไม่ว่ากันจ้า ให้เครดิตคนทำกันนิดนึงน้า 
Facebook (ใคร Add มารบกวน Inbox มาแนะนำกันซักหน่อยนะคะ ว่ามาจากไหนนะคะ จะได้รับถูกค่ะ) https://www.facebook.com/follyfollygirl 

ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ ^_^