วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564

Vegan Donuts (ไม่มีนม ไม่มีไข่ ไม่มีถั่วทุกชนิด) ส่วนผสมแค่ 3 อย่าง

สวัสดีค่า วันนี้พาพี่ยินดีทำโดนัท วีแก้น กันค่ะเนื่องจากพี่เค้าต้องกินแป้งสาลีทุกวัน ขนมปังทุกวันพี่เค้าเบื่อแล้ว ^^

ส่วนผสมง่ายๆ และใช้แป้งโฮลวีทญี่ปุ่นค่ะ ที่สำคัญใช้ส่วนผสมแค่ 3 อย่าง (ใครแพ้ยีสต์กินได้ค่ะไม่มียีสต์)
**ส่วนผสม**
แป้งโฮลวีทแบบละเอียด ใครไม่มีใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์ได้ค่ะ 240 กรัม
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
นมที่ทานได้ หรือน้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

**ส่วนผสโดนัทเกลซ**
ไอซิ่ง 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำ หรือ นม 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา
น้ำมันสำหรับทอด

**วิธีทำ**
ผสมแป้ง และของเหลวให้เข้ากัน นวดจนเป็นเนื้อเนียนตั้มใช้แป้งโฮลวีทเนื้อโดว์จะแห้งพอปั้นเป็นก้อนกลมๆ ได้ค่ะ หากใครใช้แป้งธรรมดาเนื้อโดว์ที่ได้อาจจะแฉะหน่อยนะคะ ให้หาถุงแกง หรือถุงบีบเอาเนื้อโดว์ใส่ถุงตัดปลายถุงให้ใหญ่หน่อยไว้สำหรับบีบลงหม้อทอดค่ะ
ตั้งน้ำมันให้ร้อนนำโดนัทลงทอดจนสุก ระหว่างทอดใช้ไฟกลางๆ ก็พอนะคะ
พอโดนัทสุกพักให้เย็น เอาลงเคลือบเกลซซิ่ง หรือ น้ำตาลตามชอบค่ะ
เด็กน้อยเอนจอยมากๆ ค่า ^^










ใช้เวลาทำน้อยมากๆ ลองทำกันดูน้า 😍

#แม่ตั้ม
#ครัวเด็กแพ้อาหาร
#FollyKitchen
ติดตามความเคลื่อนไหว้กันได้นะคะที่
Facebook : https://www.facebook.com/follykitchen
IG : https://www.instagram.com/tumpfollykitchen/

วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561

หอบเด็กแพ้เที่ยวไทเป (ไต้หวัน)


#หอบเด็กแพ้เที่ยว ตอน #ยินดีกินอะไรอินไทเป


มาแล้วๆ มารีวิวอาหารที่เด็กน้อยทานได้ที่ไทเป (ไต้หวัน) จากที่แม่ตั้มไปมารู้สึกว่าคนไตหวันชอบกินไข่ และถั่วลิสงมากค่ะ มีเกือบทุกที่ และเกือบทุกเมนู (แอบกลัวนิดๆ ตอนเห็น) ยกตัวอย่างนะคะในน้ำเต้าหู้มีใส่ถั่วลิสงด้วย เค้าว่ากันว่ามันจะเพิ่มรสชาติหอมมันให้น้ำเต้าหู้ โอ๊ยยย ปวดขมับ แม่ตั้มเลยเลือกที่จะให้ยินดีกินน้ำเต้าหู้ 100% ในร้านสะดวกซื้อเพราะมีบอกส่วนผสมไว้แม้จะเป็นภาษาจีนแต่เราก็อาศัยอากู๋แปลให้ เลยค่อยมั่นใจขึ้นมาหน่อยค่ะ

นมถั่วเหลืองมีให้เลือกเยอะค่ะ

อันนี้ก็อร่อย

อันนี้ขนมค่ะ เป็นถั่วแดงต้มน้ำตาลคล้ายๆ ของที่ญี่ปุ่นเลย ^^

อันนี้นมข้าวค่ะ สำหรับคนที่กินถั่วเหลืองไม่ได้

ถั่วเหลืองงาดำ

นมข้าวกล้อง


อันนี้เป็นถั่วเขียวต้มน้ำตาลแม่ตั้มคอนเฟิร์มว่าตัวนี้อร่อยมากๆ ค่ะต้องลอง

สำหรับอาหารในรอบนี้อย่างที่แม่ตั้มเคยเกริ่นไว้ตั้งแต่แรกๆ ว่าเตรียมมาพร้อมพอสมควรโชคดีมากเพราะยินดีกินอาหารที่เตรียมมาเกือบทุกมื้อค่ะ แต่โชคยังดีที่ยินดีไม่แพ้อาหารทะเลที่ไทเปจะได้รับอิทธิพลจากญี่ปุ่นเยอะพอสมควร ทั้งอาหาร วัฒนธรรม และนิสัยใจคอของคนค่ะ (ต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่โดยสิ้นเชิง) มื้อที่ยินดีแฮปปี้มากที่สุดน่าจะเป็นมือที่เราไปตลาดปลากันค่ะ ขอบอกว่าอาหารสด อร่อย และราคาไม่แพง สามารถกินสดๆ ที่ตลาด หรือช้อปเอากลับไปกินได้ถ้าไม่อยากต่อคิวรอ ถ้าใครจะไปตั้มแนะนำให้ไปเร็วหน่อยค่ะ ได้ข่าวมาว่าบางคนต้องรอคิวนานกว่า 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อจะได้เข้าไปกินค่ะ แต่แม่ตั้มโชคดีมากรอไม่ถึงชั่วโมงเลย อิอิ เป็นมื้อที่อร่อย และประทับใจเด็กน้อยมากๆ เพราะเด็กชอบกินปลาดิบมากๆ ยิ่งแซลม่อนซาชิมินี่ไม่อั้นเลยค่ะพ่อกับแม่นี่เหงื่อตกเบาๆ ^^”

ภาพที่ตลาดปลานะคะ ติดตามภาพบรรยากาศได้จากเพจ #หอบเด็กแพ้เที่ยว นะคะ (https://www.facebook.com/allergyfreejourney/)
















สำหรับอาหารตามข้างทาง หรือสตรีทฟู๊ดก็พอจะมีให้เด็กน้อยของแม่ตั้มได้สัมผัสอยู่บ้างนะคะ มีขนมชนิดนึงอาแปะนั่งขายอยู่ริมถนนค่ะ รูปร่างหน้าตาเหมือนขนมชั้นบ้านเราค่ะแต่แม่ตั้มว่านะคะขนมชั้นที่บ้านเราอร่อยกว่ามากๆ ของที่ไทเปเป็นแป้งใส่สีใส่กลิ่นใส่น้ำตาล ไม่มีกะทิเลยทำให้ไม่หอมหวานมันเหมือนขนมชั้นของบ้านเราค่ะ กินแล้วเหมือนแป้งผสมน้ำตาลเฉยๆ แหะๆ แต่ยินดีชอบนะคะคิดเป็นราคาไทยประมาณชิ้นละ 40 บาทค่ะ
 
หน้าตาเหมือนขนมชั้นบ้านเรา


สำหรับวันที่นั่งกระเช้าคริสตัลที่เหมาคงไปเที่ยวไร่ชายินดีได้กินข้าวโพดปิ้ง (แพงมากกกกก) ที่นี่จะโรยพวกผงปราปิก้าอะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ แต่ของยินดีแม่ตั้มบอกว่าไม่ต้องโรยขอแบบปิ้งเปล่าๆ ก็ฟินเด็กน้อยไปค่ะ อีกอย่างที่ต้องขอบอกว่าอร่อยมากๆ คือ ผลไม้ต่างๆ ชุบน้ำตาลค่ะ ที่ประทับใจมากๆ คือ สตรอว์เบอรี่ชุบน้ำตาลลงตัวสุดๆ สตรอว์เบอรี่เปรี้ยวกับน้ำตาลหวานๆ กรอบๆ โอ๊ยย ฟินเด็กน้อยมากๆ ค่ะ อันนี้แนะนำนะคะเจอที่ไหนห้ามพลาดอร่อยจริงๆ 

นั่งกระเช้าคลิสตัลไปเที่ยวไร่ชากันดีกว่า
อร่อยมากๆ ค่ะสิ่งนี้

ฟินเด็กเค้าล่ะค่ะ

อีกวันที่เราเดินทางไป National palace museum แม่ตั้มเจออาหารที่ข้างๆ สถานีรถไฟใต้ดิน MRT Shiling Station สายสีแดง แต่ไม่ได้ถ่ายรูปร้านมาค่ะ ซุปอันนึงอร่อยมากๆ คล้ายๆ กระเพาะปลาบ้านเราค่ะเป็นซุปลูกชิ้นปลาที่ทำจากปลาแท้ๆ ไม่มีแป้งไม่มีไข่อันนี้อันนี้ยินดีชอบมากๆ ค่ะ ราคาก็โดนใจแม่ตั้มมาก ถ้วยละประมาณ 30 บาทกว่าๆ ดีงามมากค่ะถึงกับต้องซื้อติดมือกลับมาที่พักเลยค่ะ



หน้าตาซุปปลาที่ว่า อันนี้เอากลับมาถ่ายที่ห้องค่ะ

หน้าตาเหมือนกระเพาะปลาค่ะ

ฟิชบอลที่คนขายบอกว่าใช้ปลาล้วนๆ
มีอาหารหลายๆ อย่างที่แม่ตั้มเกือบพลาดเพราะคิดว่าเหมือนขนมญี่ปุ่นค่ะยกตัวอย่างเช่น พวกโมจิต่างๆ หรือลูกชุบที่แลดูจะปลอดภัยใช่มั้ยคะ เอาเข้าจริงๆ โมจิต่างๆ เค้าจะคลุกถั่วลิสงค่ะมองไกลๆ คิดว่าคลุกผงถั่วเหลืองเหมือนญี่ปุ่น ลูกชุบอีกพอถามเข้าจริงๆ ถั่วด้านในเป็นถั่วลิสงซะงั้น (เรื่องมันเศร้าหมาเน่าลอยคอมากๆ) เด็กน้อยของแม่เลยเซ็งไปตามระเบียบพักค่ะ เราก็พี่งขนมที่พอจะรู้จักในร้านสะดวกซื้อ กับที่พกมาเองกันไปเนอะ ^^

พกมาเองอย่างเยอะเลยค่า

จะกินตอนไหน กินตรงไหนก็ได้หายห่วง

กลับมาที่อาหารต่อร้านติ่มซำบางแห่งก็มีอาหารที่ยินดีพอจะทานได้นะคะ (การ์ดเด็กแพ้ของแม่ตั้มดีมากๆ จริงๆ ค่ะ) อาหารที่พอจะทานได้ก็จะเป็นพวกโรลต่างๆ ที่ห่อด้วยก๋วยเตี๋ยวคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวหลอดบ้านเราค่ะ แล้วก็พวกโจ๊ก ฮะเก๋า ที่สามารถสอบถามทางร้านได้ค่ะ (แม่ตั้มเคยแชร์ไว้ตอนที่หอบเด็กแพ้เที่ยวฮ่องกงค่ะ http://folly-kitchen.blogspot.com/2015/12/blog-post_98.html)

ยินดีกินได้ตัวที่ราคา $119 นะคะ คือเป็นแผ่นก๋วยเตี๋ยวห่อกุ้ง
สรุปว่าทริปนี้โชคดีมากๆ ที่แม่จัดอาหาร และขนมเต็มที่มากสำหรับเด็กน้อย ไทเปเป็นเมืองที่น่าเที่ยว และสามารถไปเองได้ไม่ยากแค่ต้องศึกษาเส้นทางซักเล็กน้อย เพราะคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษกันได้น้อยมากๆ ค่ะ ใครที่ตัดสินใจจะไปเที่ยวอย่าลังเลค่ะ แม่ตั้มไกด์มาให้ขนาดนี้แล้ว เตรียมตัวเตรียมของให้พร้อมแล้วออกไปลุยกันเลยค่ะ

โหลดการ์ดเด็กแพ้ได้ที่นี่ค่ะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1452861388164389&id=621521277965075

ของในกระเป๋า
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1475372819246579&id=621521277965075


#ติดตามสถานที่เที่ยวต่างๆได้ในเพจ #หอบเด็กแพ้เที่ยว
#หวังว่าจะมีประโยชน์
#แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า
#ลูกเปลี่ยนโลก
#ครัวเด็กแพ้อาหาร
#แม่ตั้ม
#FollyKitchen

วันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2560

การ์ดเด็กแพ้

สวัสดีค่า วันนี้ตั้มเอาการ์ดเด็กแพ้มาแชร์ให้นะคะ เผื่อว่าใครกำลังมีแพลนจะไปเที่ยวนะคะ การ์ดใบนี้สำหรับตั้มมีประโยชน์มากๆ ค่ะ เอาไว้ใช้ตามร้านอาหาร และที่พัก มีทั้งหมด 4 ภาษาค่ะ ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน สำหรับภาษาจีนต้องขอขอบพระคุณเหล่าซือท่านหนึ่งที่โรงเรียนหลานแต่ว่าเหล่าซือใช้เขียนใส่กระดาษมาให้ตั้มเองก็ไม่สามารถพิมพ์เป็นอักษรให้ได้นะคะ ถ้านำไปใช้อาจจะต้องปริ้นภาษาไทยติดไปด้วยนะคะ ^^

ส่วนภาษาญี่ปุ่นตั้มต้องขอบคุณน้องท่านหนึ่งที่สละเวลาแปลให้ค่ะมีประโยชน์มากๆ ค่ะ 

ขอบคุณทั้ง 2 ท่านสำหรับทั้ง 2 ภาษาที่กรุณาสละเวลาแปลให้ค่ะ








สามารถ save ภาพและปริ้นท์ออกมาใช้ได้เลยนะคะ

หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ ^^


FollyKitchen
by FollyGirl
ติดตามไอเดียการทำอาหารตั้มได้ที่
ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ http://www.youtube.com/channel/UCewnzo-MSDq7OTTaa2rvFmg

วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Gluten free Vegan Red Velvet Cupcake





สวัสดีค่ะ วันนี้ตั้มมาชวนทำเค้กสีแดงสวยๆ กันค่ะ ทำง่ายมากๆ ที่สำคัญเนื้อเค้กนุ่มมากจริงๆ ส่วนตัวครีมปกติแล้ว Red Velvet มักจะต้องทานคู่กับครีมชีสฟรอสติ้ง แต่เค้กตัวนี้สำหรับคนแพ้อาหารนี่เนอะ ตั้มเลยปรับมาใช้โยเกิร์ตแทนค่ะมาลองทำกันดูนะคะ


ส่วนผสม
แป้งข้าวโอ๊ต (กลูเตนฟรี) 1 ถ้วย
แป้งข้าว ¼ ถ้วย
น้ำตาล ½ ถ้วย (สามารถมารถเพิ่ม ลดได้ค่ะ)
ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 1 ช้อนชา
Non Dairy Cream 180 ml
น้ำมันรำข้าว ¼ ถ้วย
น้ำส้มสายชูมะพร้าว (หรือน้ำมะนาว) ½ ถ้วย
กลิ่นวนิลลา 1 ช้อนชา
เกลือหยิบมือ
สีผสมอาหารสีแดง 


ส่วนผสมของครีมมะนาว
โยเกิร์ตที่ไม่แพ้ (ตั้มใช้โยเกิร์ตมะพร้าว) 2 – 3 ช้อนโต๊ะ
เนยรำข้าว ¼ ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่ง 1 – 1½ ถ้วย (เพิ่มลดตามความชอบ ส่วนผสมนี้แนะนำค่อยๆ เพิ่มนะคะ)
น้ำมะนาว หรือ น้ำเลม่อน ½ - 1 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวนิลลา 1 ช้อนชา
เกลือหยิบมือ

วิธีทำ
-              วอร์มเตาอบไว้ที่ 180 องศาซี ใช้ไฟบนล่าง
-              ผสมส่วนผสมแห้งทุกอย่างลงในชามผสม ค้นให้ส่วนผสมเข้ากันดี
-              เทส่วนผสมที่เป็นของเหลว ลงในชามผสมของแห้งตีส่วนผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเนียนเข้ากันดี (อย่าตีนานนะคะ ส่วนผสมจะเหนียวแน่น)
-              ตักใส่พิมพ์ได้ประมาณ 6 – 8 ถ้วยแล้วแต่ขนาดพิมพ์
-              เอาเข้าอบประมาณ 15 -20 นาทีจนกว่าจะสุกดี เวลาตรงนี้แล้วแต่เตาแต่ละบ้านนะคะ

ระหว่างรอเค้กอบอยู่เราก็มาทำครีมชีสมะนาวกันค่ะ
วิธีทำครีมชีสมะนาว
-              ร่อนไอซิ่งที่จะใช้เตรียมไว้ก่อนค่ะ
-              ตีเนยรำข้าว และเกลือในชามผสมให้ขึ้นฟูก่อนสังเกตุว่าสีของเนยจะอ่อนลงเล็กน้อยนะคะ
-              ค่อยๆ แบ่งไอซิ่งที่ร่อนแล้วลงไปตี สลับกับน้ำมะนาวค่ะ ตีไปด้วยชิมไปด้วยค่ะ อย่าใส่พร้อมกันหมดนะคะเผื่อว่าจะหวานไป
-              จากนั้นค่อยๆ ใส่โยเกิร์ตลงไป สำหรับโยเกิร์ตนะคะตั้มใส่เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมให้กับตัวฟรอสติ้งค่ะ และกลิ่นวนิลลาลงไปตีให้เป็นเนื้อเนียนฟูดีหากรู้สึกว่าเหลวไปให้ใส่ไอซิ่งเพิ่มได้ค่ะ
-              ก่อนจะน้ำฟรอสติ้งไปแต่งหน้าเค้ก ต้องพักให้เค้กเย็นสนิทก่อนนะคะ
-              แต่งเสร็จก็พร้อมเสริฟค่ะ

 
สำหรับเค้กตัวนี้หลังอบเสร็จใหม่ๆ จะนุ่มและอร่อยมากๆค่ะ แต่พอพักค้างคืนแล้วเนื้อเค้กจะแห้ง และแข็งขึ้นอีกเล็กน้อยตามสไตล์เค้กกลูเตนฟรี และไม่มีไข่ค่ะ ฉะนั้นตั้มแนะนำให้ทำในปริมาณพอทานหมดนะคะ

ลองทำกันดูนะคะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่เมนูหน้าค่ะ
FollyKitchen
by FollyGirl
ติดตามไอเดียการทำอาหารตั้มได้ที่
ติดตามผลงาน How to ในรูปแบบ VDO ของตั้มได้ที่นี่นะคะ http://www.youtube.com/channel/UCewnzo-MSDq7OTTaa2rvFmg